วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ทาดาโอะ อันโด

ทา ดาโอะ อันโดะ เกิดที่เมือง โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองที่ เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมของประเทศมาแต่ครั้งโบราณ จากการที่เขาเติบโตขึ้นมาในย่านชุมชนที่เต็มไปด้วยโรงงานเล็กๆ เค้าถูกเลี้ยงดูมาโดย คุณปู่และคุณย่าตั้งแต่เด็กจนโต จึง ค่อนข้างจะมีระเบียบวินัย และ ความรับผิดชอบ เนื่องจากที่ได้ผู้สูงอายุเป็นผู้เลี้ยงดูทำให้ได้รับอิสระในการใช้ชีวิตใน วัยเด็กต่อมาช่วงปลายวัยรุ่นของเขา เขาได้ให้ความสนใจกับการชกมวยเป็นอย่างมากถึงขนาดไปขึ้นชกจนได้ใบประกาศ รับรองความเป็นนักชกอาชีพเรียบร้อยก่อนที่จะเรียนจบมัธยมปลาย

หลัง จากที่เรียนจบแทนที่เขาจะมุ่งหน้าชกมวยอย่างจริงจังแต่เขากลับเลือกที่จะทำ งานเป็นพนักงานเขียนแบบในสำนักงานสถาปนิกแห่งหนึ่งในวัย 20 กว่าๆช่วงทศวรรษ 1960s ซึ่งเขา ทำการศึกษาการเขียนแบบด้วยตัวเอง รวมทั้งทำการ ท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ และทั่วโลก เคยมีคนสัมภาษณ์ทาดาโอะ อันโด ชื่อ Sanghyun Lee ว่า “so has this spiritual journey continued?”และทาดาโอะ อันโดก็ตอบว่า Indeed, traveling to me is a spiritual journey because whenever I visit a place, I always take time to contemplate its history and culture. When I come across a new world, I ponder its meaning and look for answers to things I do not understand, I am always thinking about the next new things I will see.

การ ที่ทาดาโอะ อันโดได้เดินทางไปเกือบทั่วโลก เพื่อทำการศึกษางานด้านสถาปัตยกรรมต่างๆในที่ต่างๆและจากบทสัมภาษณ์ทำให้เรา ได้เข้าใจว่าตัวทาดาโอะ อันโด เองนั้นก็เข้ากับทฤษฎี ประสบการณ์ ( Experience Theory ) ของ จอห์น ดิวอี้ ( John Dewey ) ที่ว่าด้วยเรื่องของการเลือกแสดงออก โดยอาศัยปัจจัยอื่นเข้าเช่น ความสามารถในเชิงช่าง วิจารณญาณที่ดีทางศิลปะ

ผลงานของทาดาโอะ อันโดทั้งหมดที่ได้ทำงานมาหรือการนำเสนองานนั้นมีทั้งหมด 133 ผลงาน และผลงานที่มักถูกยกหรือกล่าวถึงเสมอก็มีอยู่หลายชิ้นงานด้วยกันเช่น บ้านTomishima House, Osaka, Japan, 1973 และหากเป็นงานที่ต่างประเทศได้แก่ Modern Art Museum of Fort Worth, Fort Worth, Texas, 2002 ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเค้าเองก็ได้รับรางวัลมามากมายเช่น Annual Prize (Row House, Sumiyo shi) , Architectural Institute of Japan, 1979 (ชิ้นแรกที่ได้รับ), AIA Gold Medal, American Institute of Architects (AIA), 2002

(ชิ้นแรกที่ได้รับ),และถูกรับเชิญให้เป็นที่ปรึกษาหรืออาจารย์ของมหาวิทยาลัยเยล(Yale University ,1962 ) ทั้งยังสถาบันการศึกษาต่างๆด้วย เมื่อไม่เกิน10 ปีที่ผ่านมาเค้าเองก็ได้มาเมืองไทยด้วยเช่นกัน ในงานสถาปนิกประจำปี

ผลงานต่างๆที่ ทาดาโอะ อันโด ได้สร้างไว้มีถึง 133 ผลงานนั้น ในวิชา สุนทรียศาสตร์สำหรับนักออกแบบ ( AESTHETICS FOR DESIGNERS ) ขอเลือกผลงาน1 ชิ้น คือ Church of the Light หรือ วิหารแห่งแสง เพื่อทำการวิเคราะห์ นอกจากวิหารแห่งแสงแล้วนั้นยังมีวิหารแห่งลม และวิหารแห่งน้ำ เหตุผลที่เลือกการวิเคราะห์ด้วยหลักของวิชา สุนทรียศาสตร์นั้น เพราะ วิหารแห่งแสง มีขนาดไม่ใหญ่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับอาคารวิหารอื่นๆ ทั้งที่เป็นอาคารขนาดเล็กแต่ให้ความรู้สึกของการทรงอยู่ของพระเจ้านั้น ชัดเจน พื้นที่ ( space ) ที่มีขนาดไม่ใหญ่แต่กลับให้ความรู้สึกเมื่อเข้ามาในตัวอาคารแล้วนั้นกลับชัดเจนและอัศจรรค์กับพื้นที่ที่มีอยู่


แหล่งที่มา : www.oknation.net/blog/print.php?id=193025
แหล่งที่มา : www.wallpaper.com/architecture/tadao-ando-qa/2504